แผนการจัดซื้อจัดจ้างเผยแพร่เมื่อ วันพุธ, 05 กันยายน 2561 14:08 | เขียนโดย Super User | | | ฮิต: 7822 แผนจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2562
แบบตอบรับเข้าชมการแสดงเผยแพร่เมื่อ วันจันทร์, 28 พฤษภาคม 2561 08:37 | เขียนโดย Super User | | | ฮิต: 2473 แบบตอบรับเข้าชมการแสดง คลิ๊กดาวน์โหลดที่นี่
หน้า14 กำเนิดพระมงกฏ พระลบเผยแพร่เมื่อ วันศุกร์, 22 กรกฎาคม 2559 11:14 | เขียนโดย tippimont | | | ฮิต: 10358 8. กำเนิดพระมงกฏ พระลบ หลังทศกัณฐ์ตาย พิเภกได้เชิญพระรามเข้าประทับยังกรุงลงกาได้อภิเษกภิเภกขึ้นครอง โดยให้นามว่า ทศคีรีวงศ์ และได้ประทานนางมณโฑ ให้เป็นมเหสีฝ่ายซ้าย โดยที่ไม่รู้ว่านางมีครรภ์ติดมานางตรีชาดาเป็นมเหสีฝ่ายขวา นางสีดาได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองให้ทุกคนได้รู้ว่าระหว่างที่อยู่กรุงลงกามิได้มีสิ่งใดที่ทำให้มัวหมองโดยการลุยไฟ หลังจากนั้นพระรามได้ยกทัพกลับกรุงอยุทธยา และครบกำหนดการเดินทางสิบสี่ปีพอดี ได้ประทานความดีความชอบและปูนบำเหน็จให้กับเหล่าทหารกล้า โดยให้หนุมานเป็นพระยาอนุชิต จักรกฤษพิพรรธพงศา และแบ่งกรุงอยุทธยาให้ครองครึ่งหนึ่ง ให้สุครีพเป็น พระยาไวยวงศามหาสุรเดช ครองกรุงขีดขินกับนางดาราวดี ฝ่ายหนุมานเมื่อได้ครองกรุงอยุทธยาและขึ้นนั่งบัลลังก์แล้วรู้สึกร้อนรุ่มกายจึงขอคืนพระรามจึงได้แผลงศรไปสร้างเมืองให้ใหม่ ชื่อว่า นพบุรี วันหนึ่งพระยาอนุชิต (หนุมาน) ได้เข้าไปเที่ยวเล่นในอุทยานเห็นพรรณไม้ดอกไม้ผลขึ้นอยู่ดารดาษจึงคิดไปปีนป่ายเล่น ได้ถอดมงกุฎฝากนางกำนัลไว้ ขณะที่เก็บมะม่วงและโยนลงมาข้างล่าง ยางมะม่วงได้หยดลงมาถูกศีรษะ พระยาอนุชิตได้เอามือเช็ดแต่ไม่ถนัด จึงได้ยกเท้าขึ้นช่วย บรรดานางกำนัลเห็นต่างก็พากันหัวเราะและแอบกระซิบให้กันดู พระยาอนุชิตเห็นก็รู้สึกอาย เพราะเป็นการผิดวิสัยที่กษัตริย์จะทำเช่นนั้น จึงได้เข้าเฝ้าพระรามเพื่อขอลาบวช พระรามได้ปรึกษากับพระฤษีทิศไพ พระฤษีตอบว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะบวชได้ พระยาอนุชิตจึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์แล้วบวช บำเพ็ญพรตอยู่ที่เขามณฑป ใกล้กับอาศรมของพระฤษีทิศไพที่เขามรกต ต่อมากรุงลงกาเกิดกบถ เพราะไพนาสุริยวงศ์ ลูกสุดท้ายกับนางมณโฑและทศกัณฐ์ ได้ร่วมมือกับวรณีสูรพี่เลี้ยง และท้าวจักรวรรดิ เจ้ากรุงมลิวัน สหายรักของทศกัณฐ์ ใสขีลพิเภกจำตรุไว้ และตั้งให้ไพนาสุริยวงศ์ขึ้นครองแทน นามว่า ทศพิน อสุรผัด บุตรของพระยาอนุชิตที่เกิดกับนางเบญกายรู้รีบมาแจ้งข่าวพระยาอนุชิตรีบลาบรรพชิต ได้ทูลเรื่องทั้งหมดให้พระราม พระรามได้ส่งพระพรต พระสัตรุดและเหล่าเสนาวานรมาปราบ ได้จับไพนาสุริยวงศ์ประหารชีวิตพร้อมพี่เลี้ยง กล่าวถึงนางอดูรปีศาจ ซึ่งเป็นลูกของชิวหากับนางสำมนักขา มีความเจ็บแค้นที่พระรามได้สังหารโคตรวงศ์ยักษ์ของตนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงคิดแก้แค้นโดยการแปลงกายเป็นนางกำนัลเข้ามารับใช้กับนางสีดา เมื่อได้ใกล้ชิดก็ชวนพูดคุยถึงเรื่องระหว่างที่นางสีดาอยู่กรุงลงกา เมื่อได้โอกาสเหมาะก็หลอกให้นางสีดาเขียนรูปทศกัณฐ์ แล้วเข้าไปสิงในภาพนั้น นางสีดาจะลบอย่างไรก็ลบไม่ออก เมื่อพระรามกลับจากประพาสป่านางสีดาจึงรีบนำภาพนั้นเข้าไปซ่อนไว้ใต้แท่นบรรทม เมื่อพระรามเข้าที่ประทับก็รู้สึกร้อนรุ่มกายจนทนไม่ไหว จึงลุกขึ้นตวาดพวกนางกำนัลแล้วคว้าพระขรรค์เข้าไล่แทง นางสีดาตกใจรีบบอกพระลักษณ์ พระลักษณ์เข้ามาทูลถามเมื่อรู้เรื่องจึงได้บอกให้ช่วยกันค้นหาสาเหตุ จนกระทั่งค้นพบรูปทศกัณฐ์ใต้แท่นที่บรรทมจึงได้ถวายพระราม พระรามกริ้วสั่งให้ถามหาผู้ที่บังอาจวาดรูปทศกัณฐ์ นางสีดาได้ยอมรับและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง พระรามไม่เชื่อหาว่านางยังมีใจผูกพันอยู่กับพญายักษ์ จึงได้ด่าว่านางสีดาไปด้วยความโกรธ... เหม่เหม่ดูดู๋อีทรลักษณ์ ชั่วช้าอัปลักษณ์หยาบใหญ่ เสียแรงกูรักดังดวงใจ ควรฤาเป็นได้ถึงเพียงนี้ ลอบเขียนรูปชู้ไว้ชมเล่น ครั้นเห็นซัดใส่เอาทาสี อนิจจาไม่รู้ว่ากากี เสียทีไปตามเอามึงมา ทำศึกปิ้มปางตัวตาย กลับเป็นแสนร้ายสองหน้า แม้นแจ้งว่ารักอสุรา กูจะรับมึงมาด้วยอันใด แล้วสั่งให้พระลักษณ์นำนางไปประหารชีวิตที่ป่ากาลวาต แต่พระลักษณ์ไม่อาจฆ่านางได้เพราะรู้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ ก่อนจากระลักษณ์ยังได้แสดงความห่วงใยนางสีดาว่า สงสารแต่องค์พระพี่ จะจรลีผู้เดียวในกลางป่า กรำฝนทนแดดเวทนา อนาถาลำบากด้วยกันดาร จะผินพักตร์ไปพึ่งผู้ใด อาศัยอยู่กินเป็นถิ่นฐาน จะลำบากยาใจทรมาน สงสารเป็นพันพันทวี ฯ พระอินทร์เมื่อรู้ข่าวรีบแปลงกายเป็นมหิงสา (ควาย) มาพานางไปสู่อาศรมของพระฤษีวัชมฤค เมื่อพระฤษีได้พบนางสีดาและทราบเรื่องทั้งหมดจึงได้เนรมิตศาลาให้นางพักอาศัยอยู่ใกล้ๆ นางสีดามาอาศัยอยู่ไม่นานก็ประสูติโอรส ต่อมานางสีดามีธุระจะไปที่ท่าน้ำจึงได้นำโอรสมาฝากพระฤษีไว้ พระฤษีรับปากแล้วก็นั่งหลับตาบำเพ็ญศีลต่อไป เมื่อนางสีดาเดินทางไปที่ท่าน้ำได้พบกับฝูงวานรเอาลูกเกาะหลังแล้วกระโดดห้อยโหนไปมานางสีดาเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงได้ร้องบอก แต่ฝูงวานรกลับพูดย้อนกลับมาว่านางสีดานั่นแหละที่ปล่อยให้ลูกอยู่กับพระฤษีที่กำลังเข้าฌาณน่าจะได้รับอันตรายมากกว่า นางสีดาได้ยินก็รู้สึกเป็นห่วงโอรสจึงได้เดินกลับมาแอบอุ้มเอาไป ครั้นพระฤษีลืมตามขึ้นมาอีกครั้งมองไม่เห็นกุมารน้อยก็ตกใจ ลุกขึ้นออกเที่ยวตระเวนหาไปทั่วบริเวณก็ไม่พบ เกรงว่าเมื่อนางสีดากลับมาไม่พบเข้าจะเสียใจ จึงรีบแก้ไขปัญหาด้วยปรีชาไว รีบหยิบกระดานมาเขียนรูปกุมารน้อยและเตรียมจะทำพิธีชุบในกะลาไฟ ฝ่ายนางสีดาเมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พาลูกน้อยกลับมา พระฤษีเหลือบไปเห็นนางอุ้มกุมารน้อยอยู่ก็ต่อว่า แอบมาอุ้มไปโดยไม่บอกกล่าว เมื่อยู่ดีทั้งแม่และลูกก็ดีแล้วจะได้เลิกพิธีชุบกุมาร แต่นางสีดาห้ามไว้ขอให้ทำพิธีต่อไปเพื่อลูกน้อยจะได้มีเพื่อนล่นในป่าแห่งนี้ พระฤษีตามใจจึงได้ทำพิธีต่อไปจนเสร็จแล้วอุ้มมาส่งให้กับนาง นางสีดาดีใจรีบรับไว้และขอให้พระฤษีช่วยตั้งชื่อลูกรักทั้งสอง พระฤษีไม่ขัดจึงได้ตั้งให้... เลือกหาที่เป็นศรีสวัสดิ์ โดยนามกษัตริย์มหาศาล ได้ทั้งอายุบริวาร เปล่าปลอดจากกาลกิณี จึ่งว่าลูกนางในอุทร นามกรมงกุฎเป็นพี่ อันรูปซึ่งชุบในอัคคี มีนามชื่อลบอนุชา ฯ ครั้นสองกุมารเจริญวัยอายุได้สิบปี จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับพระฤษีวัชมฤค ได้เล่าเรียนวิชาคาถาอาคมและศรศิลป์ จนมีความรู้และเชี่ยวชาญ พระฤษีจึงได้ทำพิธีชุบศรให้คนละเล่มก็ถือว่าเป็นอันสำเร็จการศึกษา ต่อมาสองกุมารขออนุญาตมารดาไปเที่ยวป่า พระมงกุฎจึงได้ประลองศรยิงต้นรังใหญ่ขนาดแสนอ้อม โค่นลงเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งไตรภาพ พระรามได้ยินจึงได้ทำพิธีปล่อยม้าอุปการมาสืบข่าวหาผู้ที่บังอาจประลองฤทธิ์ และให้พระพรต พระสัตรุด หนุมานตามมาด้วย เมื่อพระหนุมานตามมาเห็นพระมงกุฎกำลังจับม้าขี่มีพระลบเดินตาม ก็ตรงเข้าไปจับตัวหมายจะมาถวายพระราม แต่ถูกหวดด้วยศรสลบไปถึงสองครั้ง และถูกจับมัดมือด้วยเถาวัลย์ แล้วสาว่าอย่าให้ใครแก้ได้นอกจากผู้เป็นนายเท่านั้น พระรามรู้รีบส่งคนมาจับตัวสองกุมาร แต่จับได้เพียงพระมงกุฎ ส่วนพระลบหนีรอดไปได้ พระรามจับพระมงกุฎมัดและพาแห่ประจานไปทั่วเมืองสั่งให้ใส่เครื่องพันธนาการไว้ครบสามวันเตรียมจะประหาร พระลบรีบเดินทางกลับไปบอกมารดา นางสีดาได้ถอดแหวนออกสั่งให้พระรีบรีบนำมาให้พระมงกุฎสวม พระลบได้แอบถอดแหวนใส่หม้อน้ำที่นางรำภานางอัปสรที่พระอินทร์ได้สั่งให้มาช่วยกำลังจะนำน้ำไปให้พระมงกุฎดื่ม พระมงกุฎเมื่อดื่มน้ำมองเห็นแหวนของมารดาก็รีบนำมาสวมเมื่อหลุดจากเครื่องพันธนาการแล้วก็รีบหนีกลับมา พระรามรู้ได้ตามมาจนถึงอาศรม ถามไถ่จนรู้ว่าเป็นพ่อลูกกันจึงได้เข้าไปอ้อนวอนขอโทษนางสีดาเพื่อให้ยกโทษให้และให้กลับไปที่กรุงอยุทธยาด้วยกัน แต่นางสีดาไม่ยอม แม้พระฤษีวัชมฤคและโอรสทั้งสองจะพูดอ้อนวอนอย่งไรก็ไม่เป็นผล ในที่สุดพระรามจึงได้ขอพาพระมงกุฎและพระลบไปอยู่ในเมืองด้วย อีกไม่นานพระรามแกล้งทำว่าสิ้นพระชนม์ นางสีดารู้ตกใจและเสียใจยิ่งนักได้รีบเข้ามาร้องไห้คร่ำครวญที่ข้างพระโกศ พระรามแอบอยู่มองเห็นจึงได้รีบออกมาพบนาง นางสีดาเมื่อรู้ว่าเป็นแผนลวงก็โกรธออกวิ่งหนีไป พระรามไล่ตามจับ ในที่สุดนางจึงได้อธิษฐานให้แผ่นดินแยกแล้วลงไปขออาศัยอยู่กับท้าววิรุณนาค กรุงบาดาล พระรามสั่งให้หนุมานตามไปเมื่อพบจึงได้ฝากนางไว้กับท้าววิรุณนาค Page >>1 >>2 >>3 >>4 >>5 >>6 >>7 >>8 >>9 >>10 >>11 >>12 >>13 >>14 >>15
หน้า15 พระรามเดินดงครั้งที่สองเผยแพร่เมื่อ วันศุกร์, 22 กรกฎาคม 2559 11:25 | เขียนโดย tippimont | | | ฮิต: 10355 9. พระรามเดินดงครั้งที่สอง เมื่อพิเภกได้ตรวจดวงชะตาของพระรามแล้วเห็นว่ามีเคราะห์จึงได้แนะนำให้ออกเดินป่าเป็นเวลาหนึ่งปี พระรามได้ทำตาม เมื่อพระลักษณ์ หนุมาน สุครีพ และ วานรสิบแปดมงกฏรู้ จึงได้ขอตามเสร็จ ระหว่างทางได้รบกับ ตรีปักกัน โอรสท้าวกุเวร เจ้านครกาลวุธ ได้ฆ่าตรีปักกันและท้าวกุเวรตายได้พบกับ กุมภัณฑ์นุราช ซึ่งเป็นยักษ์ที่ถูกพระอิศวรสาป ให้มาอยู่ในถ้ำทองมีอาณาเขตพันโยชน์ วันใดเมื่อพบกับพระนารายณ์อวตารมาได้ถวายบังคมแล้วจึงพ้นคำสาป กุมภัณฑ์นุราชได้รบกับหนุมาน เมื่อรู้ว่าหนุมานเป็นทหารเอกของพระรามจึงได้รีบบอกให้พาเข้าเฝ้า เมื่อได้ถวายบังคมและพ้นคำสาปแล้วจึงได้กลับไปสวรรค์ตามเดิม เมื่อเดินทางต่อมาได้พบกับวายุภักษ์ ครึ่งยักษ์ครึ่งนก ครองกรุงวิเชียรอยู่ที่เนินเขาจักรวาลได้พาบริวารมาพบกับพระราม พระลักษณ์ จึงคิดจะจับกินเป็นอาหารจึงได้บินโฉบลงมาจับเอาทั้งสององค์ สุครีพและหนุมานเห็นรีบตามไปช่วยเอาลงมาได้และได้และได้ฆ่าวายุภักษ์ตาย จากนั้นได้เดินทางต่อไปจนถึงสวนขวัญของท้าวอุณาราช เจ้ากรุงมหาสิงขร ได้เข้าไปพักผ่อนและเล่นน้ำ เจ้าหน้าที่ดูแลมาพบเข้ามาจึงได้เข้ามาทำร้าย แต่สู้ไม่ได้จึงหนีไปทูลท้าวอุณาราช ท้าวอุณาราชรีบยกกำลังพลออกมาต่อสู้กับพระราม แต่ถูกพระรามแผลงศรโดยใช้ต้นกกไปตรึงไว้กับแผ่นผาและสาปให้ติดอยู่นานถึงแสนโกฏิปี เมื่อครบหนึ่งปีตามกำหนด จึงได้เดินทางกลับกรุงอยุธทยา พระอินทร์ได้ขึ้นไปเฝ้าพระอิศวรเพื่อทูลให้ช่วยไกล่เกลี่ยพระรามกับนางสีดาให้คืนดีกัน พระอิศวรเห็นด้วยจึงได้สั่งให้จิตุราชไปรับนางสีดาขึ้นมาเฝ้าและได้รับฟังเรื่องทั้งหมดที่ทำให้เกิดแตกร้าวกัน และสั่งให้พระรามขึ้นมาเฝ้า พระรามได้ยอมรับผิดและขอโทษ ได้อ้อนวอนขอคืนดีกับนาง แต่นางสีดายืนยันไม่ยอมคืนดี พระอิศวรพิจารณาแล้วจึงได้ช่วยอ้อนวอนและขอร้องนางว่า... จงฟังเราว่าสีดาเอ๋ย อย่าโกรธานักเลยนะโฉมศรี อันพระภัสดาสามี ใช่ที่จะไม่รักอรไท ช่วยกันบำรุงโลกา ถ้วนหน้าจะได้อาศัย อย่าให้เทวาสุราลัย ร้อนใจนักเลยนะเทวี ฯ ในที่สุดนางสีดาใจอ่อนยอมรับเทวโองการของพระอิศวร พระอิศวรจึงได้จัดการอภิเษกให้ใหม่ และอวยชัยให้พรขอให้ทั้งสองมีความสุขและรักกันตลอดไป กล่าวถึงกรุงไกยเกษ ระหว่างที่พระพรตและพระสัตรุด ได้มาช่วยรักษากรุงอยุทธยาคราวที่พระรามออกเดินทางครั้งที่สอง ท้าวคนธรรพ์นุราช เจ้ากรุง ดิศศรีสิน พร้อมด้วยวิรุณพัทโอรส ได้ออกประพาสป่า และยกทัพเลยมาตีเอากรุงไกษ ท้าวไกยเกษซึ่งชราภาพมาก ไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูได้ จึงได้พาบริเวณหนีมาอาศัยอยู่กับพระฤษีโควินท์ และรีบส่งข่าวมาให้พระรามช่วยเหลือ พระรามเมื่อทราบข่าวได้ส่ง พระพรต พระสัตรุด พระมงกุฎ และพระลบ ยกทัพมาช่วยต่อสู้กับท้าวคนธรรพ์นุราช พระลบได้ต่อสู้กับวิรุณพัทตาย พระมงกุฎซึ่งเป็นนายทัพ ได้ออกรบกับท้าวคนธรรพ์นุราชและได้ฆ่าท้าวคนธรรพ์นุราชตาย เมื่อได้ชัยชนะ ทั้งหมดได้ยกกองทัพไปรับท้าวไกยเกษกลับเข้าเมืองท้าวไกยเกษดีใจที่บ้านเมืองปลอดภัย ได้ประทานเลี้ยงทหารและประทานเครื่องทรงให้กับสี่กษัตริย์หลังจากนั้งทั้งหมดได้กลับกรุงอยุทธยาเพื่อถวายรายงานกับพระราม พระรามได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท้าวไกยเกษ ไม่มีใครช่วยดูแลราชการบ้านเมือง จึงสั่งให้พระพรตและพระสัตรุกลับมาช่วยราชการตามเดิม พระราม นางสีดา และโอรสทั้งสอง ได้ครองกรุงอยุทธยาด้วยความผาสุกตลอดมา. Page >>1 >>2 >>3 >>4 >>5 >>6 >>7 >>8 >>9 >>10 >>11 >>12 >>13 >>14 >>15
หน้า13 ศึกลงกา(ต่อ)เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์, 15 กรกฎาคม 2559 10:32 | เขียนโดย tippimont | | | ฮิต: 10169 ศึกลงกา (ต่อ) หนุมานจึงได้หักก้านบัวแล้วลอดไปตามไส้ของดอกบัวเข้าไปยังกรุงบาดาล ได้พบกับนางพิรากวน พี่สาวไมยราพ ซึ่งถูกไมยราพลงโทษ โดยการให้ออกมาตักน้ำไปใส่ในกระทะเพื่อต้มพระรามกับไวยวิกบุตรของตน นางพิรากวนได้บอกที่ซ่อนของพระราม หนุมานรู้รีบตามไปยังกรงเหล็กท้ายดงตาล ช่วยเหลือพระรามได้สำเร็จ และได้ฆ่าไมยราพตาย ด้วยความชอบนี้เองพระรามได้ถอดแหวนนพรัตน์จากนิ้วพระหัตถ์ขวาประทานให้กับหนุมานเป็นรางวัล และให้สัญญาว่าเมื่อเสร็จศึกกรุงลงกาแล้วจะแบ่งกรุงอยุธยาให้ครองครึ่งหนึ่งด้วย เมื่อสิ้นไมยราพ ทศกัณฐ์ได้ขอร้องให้ กุมภกรรณ น้องชายซึ่งเป็นอุปราชกรุงลงกามาช่วยทำศึก กุมภกรรณได้แสดงความคิดเห็นและขอร้องทศกัณฐ์ว่า อันมูลศึกสงคราม ซึ่งลุกลามเคี่ยวเข็ญเข่นฆ่า เป็นต้นด้วยนางสีดา ที่ไปลักพามาไว้ ใช่จะชิงสมบัติพัสถาน ศฤงคารบริวารนั้นหาไม่ พระองค์จงส่งนางไป ให้แก่พระรามผู้สามี จะสิ้นเสี้ยนสิ้นศึกภัยพาล ไม่รำคาญใต้เบื้องบทศรี ทั้งจะได้เป็นมิตรไมตรี ต้องที่ในทศธรรมา ฯ แต่ทศกัณฐ์ไม่ยอมกลับด่าว่ากุมภกรรณไม่รู้สึกเจ็บแค้นและรักพวกพ้อง ในที่สุดกุมภกรรณก็ต้องออกรบ ได้ยกทัพมาต่อสู้กับพระรามเกือบจะได้ชัยชนะหลายครั้ง ได้ไปทำพิธีลับหอกโมกขศักดิ์ที่เชิงเขาพระสุเมรุใกล้ริมฝั่งแม่น้ำสีทันดร แต่ไม่สำเร็จเพราะถูกหนุมานและองคตแปลงกายเป็นกาจิกสุนัขเน่าลอยไปติดที่โรงพิธี กุมภกรรณ ผู้ซึ่งรักความสะอาดยิ่งนัก ทนไม่ไหวแทบอาเจียนจึงได้เลิกพิธี ได้ไปทำพิธีทดน้ำ แต่ถูกหนุมานตามไปจับได้ท้ายสุดออกรบตายด้วยศรพรหมาสตร์ของพระราม ทศกัณฐ์เสียใจยิ่งนักจึงสั่งให้อินทรชิตออกรบ แต่อินทรชิตต้องศรพรหมาสตร์เสียชีวิต หลังปลงศพอินทรชิตที่เขานิลกาลาแล้ว ทศกัณฐ์ได้ขอร้องให้มูลพลัม อุปราชแห่งกรุงปางตาล น้องสหัสเดชะ ซึ่งเป็นสหายรักมาช่วยแต่ทั้งสองถูกฆ่าตายหมด ทศกัณฐ์จึงได้สั่งให้แสงอาทิตย์ โอรสของพระยาขรแห่งกรุงโรมคัลซึ่งมีแว่นวิเศษเป็นอาวุธมีอานุภาพมากเมื่อฉายส่องไปที่ใดและถูกใครผู้นั้นก็จะตายทันทีให้มาช่วยทำศึก แต่แสงอาทิตย์ถูกฝ่ายพระรามซ้อนแผน โดยส่งองคตปลอมตัวเป็นจิตรไพรี พี่เลี้ยงขึ้นไปลวงเอาแว่นวิเศษจากพระพรหมซึ่งแสงอาทิตย์ได้ฝากไว้ ทำให้แสงอาทิตย์ไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูได้ จึงถูกฆ่าตายพร้อมพี่เลี้ยง สิ้นแสงอาทิตย์ ทศกัณฐ์ได้ส่งสาส์นไปหาท้าวสัตลุง เจ้ากรุงจักรวาลและตรีเมฆ โอรสของตรีเศียร แห่งกรุงมัชชวารีมาช่วยรบ แต่ถูกฝ่ายพระรามฆ่าตายหมด ทศกัณฐ์จึงคิดไปทำพิธีอุโมงค์เพื่อชุบกาย ให้กายสิทธิ์เป็นเวลาเจ็ดวันที่ถ้ำในภูเขานิลกาลา แต่ถูกหนุมาน สุครีพ และนิลนนท์ ไปทำลายตบะกิจพิธีโดยการไปพานางมณโฑมาปลุกปล้ำต่อหน้า ทศกัณฐ์ทนไม่ไหวลุกขึ้นไล่ตีสามกระบี่แล้วพานางมณโฑกลับเมือง หลังจากนั้นได้ไปขอร้องให้ท้าวสัทธาสูร เจ้ากรุงอัสดงค์ และวิรุญจำบัง โอรสของพระยาทูษณ์ แห่งกรุงจารึก แคว้นชนบท มาช่วยทำศึก แต่ทั้งสองถูกหนุมานฆ่าตาย ทศกัณฐ์จึงได้ไปทูลเชิญ ท้าวมาลีวราช (มาลีวัคคพรหม) ผู้เป็นใหญ่แห่งเทพคนธรรพ์ที่เขายอดฟ้า ซึ่งเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์เอ่ยปากว่าผู้ใดก็เป็นไปตามนั้นทุกประการ มาตัดสินคดีความระหว่างตนกับพระราม ท้าวมาลีวราชได้สั่งให้รับตัวนางสีดามาด้วย ท้าวมาลีวราชเมื่อได้ฟังความทั้งสามฝ่ายแล้วก็เชื่อได้ว่าทศกัณฐ์เป็นผู้ผิดและกล่าวถ้อยคำล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น จึงได้ตัดสินให้ทศกัณฐ์ส่งตัวนางสีดาคืน แต่ทศกัณฐ์ยังคงดื้อดึงดันไม่ยอม จนกระทั่งท้าวมาลีวราชโกรธ ลุกขึ้นกระทืบบาทพร้อมกับสาปไปว่า เหวยอ้ายทรชนคนพาล มึงมาดื้อด้านเจรจา เสียแรงเป็นวงศ์พรหมเมศ ลือเดชทั่วทศทิศา สมบัติพัสถานเขาโอฬาร์ ควรฤายังว่าไม่รักยศ จะว่าให้ดีสิไม่ฟัง โอหังหาบช้างสาหส พาอ้ายจัญไรใจคด เอาแต่ทรยศมาใส่ตัว ความเจ็บความตายก็หาไม่ กราบไหว้สตรีท่วมหัว ลุแก่โลภหลงเมามัว ถือเอาที่ชั่วเป็นดี เมื่อมึงพอใจทรลักษณ์ ไม่รักสุริยวงศ์ยักษี ขอให้วิบัติอัปรีย์ อย่ามีซึ่งสิ่งสถาวร มาตรแม้นจะออกต่อยุทธ์ ให้ตายด้วยอาวุธแสงศร ขององค์พระรามสี่กร พ่ายแพ้ฤทธิรอนทุกวันไป ฯ ทศกัณฐ์กลับถึงกรุงลงกา จึงคิดไปลับหอกกบิลพัทที่หาดทรายกรดเชิงเขาพระสุเมรุ เมื่อตั้งพิธีไฟแล้ว ทศกัณฐ์ได้ปั้นรูปเทวดาและนางฟ้าโยนเข้าไปทำให้เทพทั้งหลายได้รับความทุกข์ทรมานไปตามๆ กัน จึงพากันมาทูลพระอิศวร พระอิศวรได้ตรัสสั่งให้เทพบุตรพาลีไปทำลายพิธี เมื่อออกรบอีกครั้งทศกัณฐ์ได้พุ่งหอกกบิลพัทมาหมายสังหารพิเภก เพราะมีความโกรธแค้นที่ไปบอกความลับให้กับศัตรูหลายครั้ง แต่พระลักษณ์เห็นรีบเอากายเข้ารับไว้จนสลบ พิเภกได้บอกยาให้แก้ไขให้ฟื้นขึ้นมาได้ หลังจากนั้นทศกัณฐ์ได้ส่งสารไปขอความช่วยเหลือจาก ท้าวทัพนาสูร แห่งกรุงจักรวาลมาช่วยรบ แต่ถูกฆ่าตาย นางมณโฑจึงได้ช่วยทำพิธีสัญชีพ (หุงน้ำทิพย์) เพื่อชุบคนตายให้ฟื้นมาช่วยทศกัณฐ์ทำศึก ทศกัณฐ์ดีใจรีบจัดตั้งโรงพิธีให้ นางมณโฑรีบตั้งจิตบริกรรมและสั่งสามีห้ามีเสน่หาต่อกันระหว่างทำพิธี เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วได้สั่งให้ทหารยักษ์นำไปส่งให้ทศกัณฐ์ที่สนามรบ ทศกัณฐ์ดีใจรีบนำน้ำทิพย์ไปประพรมผู้ที่ตายใหม่ตายเก่าต่างก็ลุกขึ้นมาช่วยกันสู้รบกับกองทัพพระราม เมื่อตายทศกัณฐ์ก็ประพรมน้ำทิพย์ลงไปเรื่อยๆ จนพระรามไม่สามารถจะปราบได้หมด จึงได้ส่งหนุมานไปทำลายพิธีโดยแปลงกายเป็นทศกัณฐ์เข้าไปสมสู่กับนางมณโฑ พิธีจึงต้องเลิกไป ทศกัณฐ์ได้ยกทัพออกมารบกับพระราม และถูกศรของพระรามจนร่างกายขาดออกจากกันแต่ก็ไม่ตาย พระรามสงสัยจึงได้ถามพิเภก พิเภกบอกว่าเพราะทศกัณฐ์ได้ถอดหัวใจฝากไว้กับพระฤษีโคบุตรที่กุฎีกลางป่า หนุมานและองคตจึงได้อาสาไปเอากล่องดวงใจจากพระฤษีมาได้ และได้วางแผนร่วมกันกับพระรามลวงทศกัณฐ์โดยแกล้งยอมเข้าไปสวามิภักดิ์ ทศกัณฐ์หลงเชื่อยอมรับไว้เป็นบุตรบุญธรรมโดยไม่ยอมฟังเสียงทัดทานจากนางมณโฑ ได้อาสาออกรบและปะทะคารมกับพระลักษณ์อย่างเผ็ดร้อนทศกัณฐ์หลงเชื่อหนุมานว่าจะจับตัวพระรามมาถวาย ถึงกับยกปราสาทราชวัง ทรัพย์สมบัติ รวมทั้งนางสุวรรณกันยุมา ชายาของอินทรชิตให้ด้วย เมื่อหนุมานออกรบอีกครั้งได้วางแผนร่วมกับองคตและพระรามเผด็จศึกสังหารทศกัณฐ์พร้อมกับขยี้กล่องดวงใจจนทศกัณฐ์สิ้นลม งาที่ปักอยู่กับอกก็หลุดออก Page >>1 >>2 >>3 >>4 >>5 >>6 >>7 >>8 >>9 >>10 >>11 >>12 >>13 >>14 >>15
เนื้อหาอื่นๆ... หน้า12 ศึกลงกา หน้า11 พระรามเดินดง หน้า10 กำเนิดพระราม สีดา หน้า9 กำเนิดมณโฑเทวี องคต และอินทรชิต(ต่อ)